แพ็คเกจ 11 วัน 10 คืน

MAKE MEMORIES IN THE LAND OF THUNDER DRAGON

PARO - CAMPING

วันที่ 1 กรุงเทพฯ-พาโร

เมื่อเดินทางมาถึงและทำการเช็คอิน ท่านจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากตัวแทนของ Drukair Holidays ที่พร้อมมอบช่วงเวลาแห่งความประทับใจให้กับท่าน ทันทีที่ถึงโรงแรม ท่านจะได้พักผ่อนในบรรยากาศแสนสบาย ท่ามกลางทิวทัศน์งดงามของหุบเขาหิมาลัย ยามบ่ายเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสุดโรแมนติก เมื่อท่านได้ออกไปสำรวจเสน่ห์ของเมืองพาโรด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเยี่ยมชมวัดที่เปี่ยมด้วยมนต์ขลัง หรือการเดินเล่นท่ามกลางทัศนียภาพอันตราตรึง คุณจะได้พบกับมัคคุเทศก์ท้องถิ่นที่พร้อมจะเติมเต็มเรื่องราวของสถานที่เหล่านี้ให้กลายเป็นความ
ทรงจำพิเศษ 

ที่พัก : COMO Uma Paro

วันที่ 2 พาโร

ช่วงเช้า

เดินทางผ่านป่าสนที่ตั้งอยู่สูงเหนือ COMO Uma Paro ไปยังพื้นที่อันงดงามของ ซูริกซอง (Zurig Dzong) ซึ่งเป็นป้อมปราการที่โดดเด่น จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังทาซอง (Ta Dzong) ซึ่งเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติภูฏาน และให้ท่านได้ชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามของเมืองพาโร ก่อนจะเดินลงไปยังริมปุงซอง (Rinpung Dzong) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ป้อมปราการแห่งกองอัญมณี" เส้นทางนี้จะผ่านสนามยิงธนูหลัก พระราชวัง Ugyen Pelri และข้ามแม่น้ำพาโร ชู (Paro Chhu) ผ่านสะพานไม้โบราณมีหลังคาในประวัติศาสตร์ Nyamai Zam ก่อนที่จะเข้าสู่ตัวเมืองพาโร

ช่วงบ่าย
เดินทางต่อไปทางเหนือของพาโรเพียงไม่กี่กิโลเมตรเพื่อไปยังกีชูลาคัง (Kyichu Lhakhang) หนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดในภูฏาน เพื่อสักการะและชมต้นส้มมหัศจรรย์ที่ออกผลตลอดปี หากมีเวลา ท่านจะได้เดินทางต่อไปยังดรุคเกลซอง (Drukgyel Dzong) ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1648 โดย Zhabdrung Ngawang Namgyal เพื่อปกป้องทางเข้าทิเบต

ที่พัก : COMO Uma Paro

อาหาร : เช้า / กลางวัน / เย็น

วันที่ 3 พาโร - วัดทักซัง

ช่วงเช้า

กิจกรรมของวันนี้ ซึ่งจะนำไปสู่การเยี่ยมชมวัดทักซัง (Tiger's Nest) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "วัดถ้ำเสือ" ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สำคัญของภูฏาน ตามตำนานกล่าวว่า ที่หน้าผานี้คือที่ที่พระอาจารย์ริปุนเช (ปัทมสัมภวะ)ได้นำพุทธศาสนาจากทิเบตมายังภูฏานโดยเดินทางมาบนหลังเสือบินถึงที่หน้าผาแห่งนี้

การเดินทางเริ่มต้นแต่เช้าซึ่งเป็นเวลาที่อากาศกำลังสบาย โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงนี้ เส้นทางนี้จะเดินทางค่อนข้างชันโดยเดินผ่านน้ำตก จนกระทั่งถึงจุดหมาย ท่านสามารถเดินทางต่อไปยังจุดสูงกว่านี้เพื่อชมวัดอันเงียบสงบที่อยู่เหนือขึ้นไป หลังจากที่ใช้เวลาช่วงเช้าในวัดแล้ว จะหยุดพักเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน ก่อนจะไปทำสมาธิในหนึ่งในวัดเก่าที่อยู่ใกล้ถ้ำของพระอาจารย์ริปุนเช

ช่วงบ่าย

หลังจากการทำสมาธิ เดินทางกลับไปยัง COMO Uma Paro เพื่อพักผ่อนในคืนสุดท้ายนี้ ท่านยังสามารถใช้บริการห้องอบไอน้ำ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ หรือจะเพิ่มความผ่อนคลายโดยรับบริการทรีตเมนต์จาก COMO Shambhala



ที่พัก: COMO Uma Paro

อาหาร : เช้า / กลางวัน / เย็น

วันที่ 4 วันแรกของการเดินป่า 

ชานาซัมปา-กุนิตซาวา-ซานาซัมปา-ถังถังคา

ช่วงเช้า

เราเริ่มต้นการเดินทางแต่เช้าตรู่ โดยแวะเยี่ยมชม ดรุคเกลซอง (Druk Gyal Dzong) ป้อมปราการเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1648 เพื่อควบคุมเส้นทางทางเหนือสู่ทิเบต จากนั้นออกจากถนนสายหลักและมุ่งหน้าสู่เส้นทางเลียบแม่น้ำ พาชู ผ่านบ้านไร่ดั้งเดิมและพื้นที่เกษตรกรรมอันอุดมสมบูรณ์ รวมถึงหมู่บ้านเล็ก ๆ อย่าง มิทชิซัมปา และ ซางาตัง ไม่นานนัก เราจะมาถึงจุดตรวจของกองทัพที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินป่าในวันนี้อีกด้วย

ช่วงบ่าย

การเดินทางเข้าสู่ อุทยานแห่งชาติจิกเม โดร์จี ผ่านเส้นทางเลียบหุบเขาที่ปกคลุมด้วย ดอกโรโดเดนดรอน และป่าสน อุทยานแห่งนี้มีความน่าตื่นตาตื่นใจด้วยขนาดอันกว้างใหญ่ที่ครอบคลุมทั้งสามโซนภูมิอากาศของภูฏาน ตั้งแต่ป่าร่มรื่นไปจนถึงธารน้ำแข็ง ที่สำคัญ

ที่นี่เป็นอุทยานแห่งเดียวที่เป็นบ้านของสัตว์และดอกไม้ประจำชาติ ได้แก่ ทาคิน และ ดอกป๊อปปี้สีน้ำเงิน

เรามุ่งหน้าผ่านหุบเขาที่รายล้อมด้วยหน้าผาสูงชันทั้งสองด้าน โดยมีทัศนียภาพอันงดงามของ ยอดเขาจโมลฮารี เป็นฉากหลัง จนกระทั่งถึง ทุ่งหญ้าถังถังคา (3,610 เมตร) ซึ่งเป็น จุดตั้งแคมป์ของเราในคืนนี้

ระยะเวลาเดินทางด้วยรถ: 1 - 1.5 ชั่วโมง
ระยะเวลาเดินป่า: 7 ถึง 8 ชั่วโมง (21 กิโลเมตร) 

ที่พัก : แคมปิ้งที่ทุ่งหญ้าถังถังคา

อาหาร : เช้า / กลางวัน / เย็น

วันที่ 5 วันที่สองของการเดินป่า

ถังถังคา - จังโกทัง

ช่วงเช้า

เราเริ่มต้นเส้นทางที่ลัดเลาะผ่านพื้นที่ที่เป็นดินโคลนซึ่งอยู่นอกเหนือจากจุดตรวจของกองทัพแห่งสุดท้าย เดินผ่าน กำแพงมณี ที่เต็มไปด้วยหินกรวดจารึกบทสวดมนต์ พร้อมเข้าสู่ดินแดนของฝูงจามรี ท่านจะได้เห็นชุมชนของคนเลี้ยงจามรีใน โซ และ ทาเกทัง ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกพืช เช่น ข้าวบาร์เลย์ มันฝรั่ง และหัวผักกาด ระหว่างทางยังมี โชเต็น (สถูป) ที่ทำหน้าที่เป็นจุดบอกเส้นทางสู่ จุดตั้งแคมป์ที่จังโกทัง (4,080 เมตร)


ช่วงบ่าย 
หลังจากตั้งแคมป์และพักผ่อนเรียบร้อย มัคคุเทศก์ของเราจะอธิบายเกี่ยวกับการสำรวจพื้นที่รอบๆ แคมป์ในวันถัดไป ช่วงเวลาที่เหลือของวันนี้ท่านสามารถดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์อันตระการตาของเทือกเขาหิมาลัยที่โอบล้อมอยู่รอบตัว

ระยะเวลาเดินป่า: 5 ถึง 6 ชั่วโมง (19 กิโลเมตร) 

ที่พัก : ตั้งแคมป์ที่จังโกทัง

อาหาร : เช้า / กลางวัน / เย็น

วันที่ 6 วันที่สามของการเดินป่า

สำรวจจังโกทัง

ช่วงเช้า
กิจกรรมในวันนี้คือการเดินป่าในดินแดนของผู้เลี้ยงจามรี โดยเราจะปีนขึ้นไปบนสันเขาทางตอนเหนือเพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามของ ยอดเขาจิกชูดรักเย (6,989 เมตร)

ช่วงบ่าย
ท่านสามารถเลือกออกเดินสำรวจอย่างสบาย ๆ เพื่อค้นหา แกะสีน้ำเงิน (blue sheep) ที่พบเห็นได้ยาก หรือ ดอกป๊อปปี้สีน้ำเงิน ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติของภูฏาน หากต้องการพักผ่อนท่านสามารถใช้เวลา

ผ่อนคลายภายในแคมป์ที่รายล้อมด้วยทิวทัศน์อันงดงามของยอดเขาจโมลฮารี ที่ปกคลุมด้วยหิมะอย่างสง่างาม ทั้งวันเป็นของท่านในการดื่มด่ำกับธรรมชาติตามใจปรารถนา


ที่พัก : ตั้งแคมป์ที่จังโกทัง

อาหาร : เช้า / กลางวัน / เย็น

วันที่ 7 วันที่สี่ของการเดินป่า

จังโกทัง-ทะเลสาบโซฟู-ภูเขาโภนเตลา-ซอยยักซา

ช่วงเช้า

ออกจากแคมป์โดยข้ามแม่น้ำ พาชู อีกครั้ง ก่อนเริ่มไต่ระดับขึ้นสู่ทะเลสาบที่ โซฟู มุ่งหน้าสู่ โภนเตลา (4,890 เมตร) ซึ่งเป็นจุดสูงที่สุดของเส้นทางเดินป่าครั้งนี้ บริเวณนี้ท่านจะได้หยุดพักและชื่นชมทัศนียภาพอันน่าทึ่งของยอดเขา บาซิงถัง (5,500 เมตร) และ ชาตาราเก (โจดรักเย) ที่ความสูง (5,570 เมตร)


ช่วงบ่าย

จากนั้นเราเดินทางต่อไปยังแม่น้ำดูมโซชู และติดตามเส้นทางเลียบแม่น้ำไปยังแคมป์ที่ ซอยยักซา (3,800 เมตร) ระหว่างทาง ท่านจะได้พบกับน้ำตก บ้านไร่ และแคมป์ของผู้เลี้ยงจามรี ที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์ธรรมชาติอันน่าประทับใจ 


ระยะเวลาเดินป่า: 6 ถึง 7 ชั่วโมง (16 กิโลเมตร) 
ที่พัก: ตั้งแคมป์ที่ซอยยักซา

อาหาร : เช้า / กลางวัน / เย็น

วันที่ 8 วันที่ห้าของการเดินป่า

ซอยยักซา - ถมบูซอง

ช่วงเช้า
เส้นทางในยามเช้าจะเริ่มต้นด้วยการไต่ระดับขึ้นสันเขาสูง 100 เมตร ก่อนลดระดับลงสู่ลำธาร จากนั้นเดินทางต่อไปจนถึง ช่องเขาทาคุงลา (4,520 เมตร) ซึ่งเป็นจุดที่เราจะได้รับรางวัลเป็นทัศนียภาพอันงดงามของยอดเขาสี่ลูก ได้แก่ จโมลฮารี, จิกชูดรักเย, เทริคัง และ คันเชนจุงกา


ความยิ่งใหญ่และความงดงามของทิวทัศน์ที่แผ่กว้างอยู่ตรงหน้าสร้างความประทับใจไม่รู้ลืม นี่คือจุดชมวิวที่พลาดไม่ได้สำหรับการเก็บภาพความทรงจำอันล้ำค่า เราจึงหยุดพักเพื่อดื่มด่ำกับความงามนี้อย่างเต็มอิ่ม

ช่วงบ่าย
เราจะเดินลงตามเส้นทางที่คดเคี้ยวเข้าสู่ หุบเขาถมบู (4,120 เมตร) ซึ่งเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจี โดยปกติจะเต็มไปด้วยชีวิตชีวาจากผู้เลี้ยงจามรีและครอบครัว

ระยะเวลาเดินป่า: 4 ถึง 5 ชั่วโมง (11 กิโลเมตร) 
ที่พัก : ตั้งแคมป์ หุบเขาถมบู

อาหาร : เช้า / กลางวัน / เย็น

วันที่ 9 วันที่หกของการเดินป่า

ถมบูซอง - กูนิตซาวา - พาโร

ช่วงเช้า

เส้นทางเริ่มต้นด้วยการข้าม ช่องเขาถมบูลา (4,380 เมตร) ก่อนจะค่อย ๆ ลดระดับลงผ่านป่าที่เต็มไปด้วยต้นสนและต้นจูนิเปอร์ มุ่งหน้าสู่หมู่บ้านกูนิตซาวา ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดการเดินป่า รถของเราจะรออยู่ที่นี่เพื่อพาท่านกลับผ่านพื้นที่เกษตรกรรมในหุบเขาพาโรตอนบนกลับสู่รีสอร์ท COMO Uma Paro ที่ซึ่งการบำบัดอันผ่อนคลายรอคอยอยู่เพื่อคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ และท่านสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศอันเงียบสงบของรีสอร์ทได้ อย่างเต็มที่


ระยะเวลาเดินป่า: 4 ถึง 5 ชั่วโมง (13 กิโลเมตร)
ที่พัก : COMO Uma Paro

อาหาร : เช้า / กลางวัน / เย็น

วันที่ 10 วันพักผ่อนที่ทิมพู

คุณสามารถเลือกเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆในเมืองทิมพู เมืองหลวงของภูฏาน

ตลาดของทิมพูเปิดในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ คุณสามารถเดินชมร้านค้าและแผงขายสินค้าที่มีสีสันสวยงามเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนจะไปสำรวจเมืองต่อไป คุนเซล โพดรัง (Kuensel Phodrang) ปัจจุบันที่นี่เป็นที่ตั้งของพระพุทธรูป (Buddha Dordenma) ขนาดใหญ่ ความสูง 51.5 เมตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สร้างจากทองสัมฤทธิ์ปิดทองคำและเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เยี่ยมชมซอริก ชูซุม (Zorig Chusum) สถาบันแห่งชาติของศิลปะและหัตถกรรม 13 สาขา ที่ซึ่งนักเรียนชาวภูฏานรุ่นเยาว์กำลังเรียนรู้หัตถกรรมประจำชาติ

ต่อที่ Royal Takin Preserve ซึ่งทาคินเป็นสัตว์ประจำชาติของภูฏาน

ชม National Memorial Chorten ที่ถูกสร้างขึ้นโดยพระราชวงศ์และรัฐบาลเพื่อเป็นเกียรติแก่พระราชาภิเษกของพระราชาธิราชแห่งภูฏาน พระองค์ที่สาม, พระเจ้า Jigme Dorji Wangchuck ซึ่งเสด็จสวรรคตก่อนที่อนุสาวรีย์จะแล้วเสร็จ

ทาชิโช ซอง (Trashi Chhoe Dzong) ซึ่งเรียกว่า ป้อมปราการแห่งศาสนาที่รุ่งเรือง ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของกระทรวงต่างๆ ของรัฐบาล เลขาธิการพระมหากษัตริย์ และศูนย์กลางของคณะสงฆ์ โดยอนุญาตให้เข้าได้หลังเวลา 17:00 น.

พิพิธภัณฑ์สิ่งทอแห่งราชวงศ์ภูฏาน (Royal Textile Academy Museum) สามารถเยี่ยมชมคอลเล็กชันพระราชวงศ์ของ ซึ่งประกอบไปด้วยมงกุฎ Raven (มงกุฎเจ้าบ่าวของภูฏาน) และชุดเจ้าสาวพระราชทาน นอกจากนี้ยังสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะการทอผ้าและสไตล์การทอ



พิพิธภัณฑ์มรดกพื้นบ้าน (Folk Heritage Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จำลองบ้านแบบดั้งเดิมของภูฏานที่มีการตกแต่งอย่างละเอียดราวกับว่ามคือบ้านในศตวรรษที่ผ่านมา

ทิมพู ตั้งอยู่บนเนินเขาฝั่งตะวันตกของแม่น้ำ วังชู และห่างจาก COMO Uma Paro เพียงหนึ่งชั่วโมงโดยรถยนต์ อีกทั้งเวลาเปิดของพิพิธภัณฑ์, วัด, โบสถ์ และทาชีโชซองนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามวันหยุดราชการ

พัก : COMO Uma Paro

อาหาร : เช้า / กลางวัน / เย็น


วันที่ 11 พาโร - กรุงเทพฯ

นำท่านเดินทางออกจากสนามบินพาโร ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วย ความประทับใจ และ

ความทรงจำแสนโรแมนติก จากการเดินทางที่พิเศษครั้งนี้ ดินแดนภูฏานจะยังคงเป็นสถานที่ที่รอให้ท่านหวนกลับมาอีกครั้ง...