แพ็คเกจ 6 วัน 5 คืน

EXPLORE THE VALLEY OF PARO

วันที่ 1 กรุงเทพฯ-พาโร

เมื่อเดินทางมาถึงและทำการเช็คอิน ท่านจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากตัวแทนของ Drukair Holidays ที่พร้อมมอบช่วงเวลาแห่งความประทับใจให้กับท่าน ทันทีที่ถึงโรงแรม ท่านจะได้พักผ่อนในบรรยากาศแสนสบาย ท่ามกลางทิวทัศน์งดงามของหุบเขาหิมาลัย ยามบ่ายเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสุดโรแมนติก เมื่อท่านได้ออกไปสำรวจเสน่ห์ของเมืองพาโรด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเยี่ยมชมวัดที่เปี่ยมด้วยมนต์ขลัง หรือการเดินเล่นท่ามกลางทัศนียภาพอันตราตรึง คุณจะได้พบกับมัคคุเทศก์ท้องถิ่นที่พร้อมจะเติมเต็มเรื่องราวของสถานที่เหล่านี้ให้กลายเป็นความ

ทรงจำพิเศษ




ที่พัก : COMO Uma Paro 

อาหาร : เช้า / กลางวัน / เย็น

วันที่ 2 พาโร

ช่วงเช้า

เดินทางผ่านป่าสนที่ตั้งอยู่สูงเหนือ COMO Uma Paro ไปยังพื้นที่อันงดงามของ ซูริกซอง (Zurig Dzong) ซึ่งเป็นป้อมปราการที่โดดเด่น จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังทาซอง (Ta Dzong) ซึ่งเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติภูฏาน และให้ท่านได้ชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามของเมืองพาโร ก่อนจะเดินลงไปยังริมปุงซอง (Rinpung Dzong) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ป้อมปราการแห่งกองอัญมณี" เส้นทางนี้จะผ่านสนามยิงธนูหลัก พระราชวัง Ugyen Pelri และข้ามแม่น้ำพาโร ชู (Paro Chhu) ผ่านสะพานไม้โบราณมีหลังคาในประวัติศาสตร์ Nyamai Zam ก่อนที่จะเข้าสู่ตัวเมืองพาโร

ช่วงบ่าย

เดินทางต่อไปทางเหนือของพาโรเพียงไม่กี่กิโลเมตรเพื่อไปยัง
กีชูลาคัง (Kyichu Lhakhang) หนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดในภูฏาน เพื่อสักการะและชมต้นส้มมหัศจรรย์ที่ออกผลตลอดปี หากมีเวลา ท่านจะได้เดินทางต่อไปยังดรุคเกลซอง (Drukgyel Dzong) ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1648 โดย Zhabdrung Ngawang Namgyal เพื่อปกป้องทางเข้าสู่ทิเบตทางตอนเหนือ



ที่พัก : COMO Uma Paro 

อาหาร : เช้า / กลางวัน / เย็น

วันที่ 3 พาโร

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการฝึกโยคะประจำวัน เพื่อสร้างสมาธิและความสมดุล เพื่อผ่อนคลายอย่างล้ำลึก


ช่วงสาย 

เราจะเดินทางไปยัง
Chele La Pass ซึ่งตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 3,988 เมตร นับเป็นช่องเขาที่สูงที่สุดในภูฏาน เมื่อเดินทางตามสันเขาที่ปกคลุมไปด้วยดอก Edelweiss จะพบสถานที่ฝังศพท้องฟ้า

(Sky Burial Site) อันศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นจะเดินลงไปยังป่าต้นโรโดเดนดรอนหนาแน่น ซึ่งอาจได้พบกับฝูงยัคที่กำลังเดินอยู่ในธรรมชาติ


ในวันที่อากาศแจ่มใส จะได้ชมยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะของภูเขา Mt. Jhomolhari ซึ่งเป็นภูเขาสูงอันดับสองของภูฏาน (7,314 เมตร) ก่อนที่จะลงไปยังหุบเขา Haa Valley ที่ตั้งใกล้พรมแดนซิกขิมและทิเบต หุบเขานี้ยังคงความงดงามตามธรรมชาติและสะท้อนถึงวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวภูฏาน

ต่อจากนั้น เยี่ยมชมอารามแม่ชี (Kila Nunnery Shedra) ที่ตั้งอยู่บนหน้าผาอันสงบงดงาม ถือเป็นหนึ่งในอารามแม่ชีที่เก่าแก่ที่สุดของภูฏาน ก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 9 


ช่วงบ่าย

ก็ถึงเวลาเดินลงไปอีกเล็กน้อย โดยใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงในการเดินทางกลับสู่ถนน จากนั้นจะปั่นจักรยานภูเขาลงไปยังหุบเขาพาโร

สำหรับผู้ที่ต้องการการท่องเที่ยวแบบผ่อนคลายก็สามารถเลือกขับรถจาก Chele La Pass ลงไปอีกฝั่งไปยังหุบเขา Haa Valley ได้


หากในช่วงฤดูหนาวไม่สามารถเข้าถึง Chele La Pass ได้ จะมีการเสนอแผนการท่องเที่ยวทางเลือกในวันนี้แทน


ที่พัก : COMO Uma Paro

อาหาร : เช้า / กลางวัน / เย็น

วันที่ 4 ทิมพู-พาโร

คุณสามารถเลือกเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ ในเมืองทิมพู เมืองหลวงของภูฏาน

ตลาดของทิมพูเปิดในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ คุณสามารถเดินชมร้านค้าและแผงขายสินค้าที่มีสีสันสวยงามเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนจะไปสำรวจเมืองต่อไป คุนเซล โพดรัง (Kuensel Phodrang) ปัจจุบันที่นี่เป็นที่ตั้งของพระพุทธรูป (Buddha Dordenma) ขนาดใหญ่ ความสูง 51.5 เมตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สร้างจากทองสัมฤทธิ์ปิดทองคำและเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เยี่ยมชมซอริก ชูซุม (Zorig Chusum) สถาบันแห่งชาติของศิลปะและหัตถกรรม 13 สาขา ที่ซึ่งนักเรียนชาวภูฏานรุ่นเยาว์กำลังเรียนรู้หัตถกรรมประจำชาติ

ต่อที่ Royal Takin Preserve ซึ่งทาคินเป็นสัตว์ประจำชาติของภูฏาน

ชม National Memorial Chorten ที่ถูกสร้างขึ้นโดยพระราชวงศ์และรัฐบาลเพื่อเป็นเกียรติแก่พระราชาภิเษกของพระราชาธิราชแห่งภูฏาน พระองค์ที่สาม, พระเจ้า Jigme Dorji Wangchuck ซึ่งเสด็จสวรรคตก่อนที่อนุสาวรีย์จะแล้วเสร็จ



ทาชิโช ซอง (Trashi Chhoe Dzong)
ซึ่งเรียกว่า ป้อมปราการแห่งศาสนาที่รุ่งเรือง ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของกระทรวงต่างๆ ของรัฐบาล เลขาธิการพระมหากษัตริย์ และศูนย์กลางของคณะสงฆ์ โดยอนุญาตให้เข้าได้หลังเวลา 17:00 น.



พิพิธภัณฑ์สิ่งทอแห่งราชวงศ์ภูฏาน (Royal Textile Academy Museum) สามารถเยี่ยมชมคอลเล็กชันพระราชวงศ์ของ ซึ่งประกอบไปด้วยมงกุฎ Raven (มงกุฎเจ้าบ่าวของภูฏาน) และชุดเจ้าสาวพระราชทาน นอกจากนี้ยังสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะการทอผ้าและสไตล์การทอ



พิพิธภัณฑ์มรดกพื้นบ้าน (Folk Heritage Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จำลองบ้านแบบดั้งเดิมของภูฏานที่มีการตกแต่งอย่างละเอียดราวกับว่ามคือบ้านในศตวรรษที่ผ่านมา



เดินทางกลับพาโร


ที่พัก: COMO Uma Paro

อาหาร : เช้า / กลางวัน / เย็น

วันที่ 5 พาโร-วัดทักซัง

ช่วงเช้า

กิจกรรมของวันนี้ ซึ่งจะนำไปสู่การเยี่ยมชม
วัดทักซัง (Tiger's Nest) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "วัดถ้ำเสือ" ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สำคัญของภูฏาน ตามตำนานกล่าวว่า ที่หน้าผานี้คือที่ที่พระอาจารย์ริปุนเช (ปัทมสัมภวะ)ได้นำพุทธศาสนาจากทิเบตมายังภูฏานโดยเดินทางมาบนหลังเสือบินถึงที่หน้าผาแห่งนี้


การเดินทางเริ่มต้นแต่เช้าซึ่งเป็นเวลาที่อากาศกำลังสบาย โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงนี้ เส้นทางนี้จะเดินทางค่อนข้างชันโดยเดินผ่านน้ำตก จนกระทั่งถึงจุดหมาย ท่านสามารถเดินทางต่อไปยังจุดสูงกว่านี้เพื่อชมวัดอันเงียบสงบที่อยู่เหนือขึ้นไป หลังจากที่ใช้เวลาช่วงเช้าในวัดแล้ว จะหยุดพักเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน ก่อนจะไปทำสมาธิในหนึ่งในวัดเก่าที่อยู่ใกล้ถ้ำของพระอาจารย์ริปุนเช


ช่วงบ่าย

หลังจากการทำสมาธิ เดินทางกลับไปยัง COMO Uma Paro เพื่อพักผ่อนในคืนสุดท้ายนี้ ท่านยังสามารถใช้บริการห้องอบไอน้ำ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ หรือจะเพิ่มความผ่อนคลายโดยรับบริการทรีตเมนต์จาก COMO Shambhala



ที่พัก: COMO Uma Paro

อาหาร : เช้า / กลางวัน / เย็น

วันที่ 6 พาโร-กรุงเทพฯ

นำท่านเดินทางออกจากสนามบินพาโร ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วย ความประทับใจ และ

ความทรงจำแสนโรแมนติก จากการเดินทางที่พิเศษครั้งนี้ ดินแดนภูฏานจะยังคงเป็นสถานที่ที่รอให้ท่านหวนกลับมาอีกครั้ง...

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy